ReadyPlanet.com
dot
dot
dot
การใช้งาน
dot
dot
สาระน่ารู้
dot
dot
รวมลิงค์วิดีโอคลิป
dot
dot
รวมลิงค์เว็บเพื่อนบ้าน
dot




การกรองน้ำมันเกียร์

การกรองน้ำมันเกียร์

 

   Gear tooth        Gearbox

 

 

ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม เกียร์บ็อกเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาแพง และมีความสำคัญต่อการผลิตมาก เราจึงควรให้ความสำคัญเรื่องการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เพื่อให้เกียร์บ็อกมีอายุการใช้งานนาน หรือให้ระยะเวลาระหว่างการซ่อมบำรุงแต่ละครั้งนานมากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้

วิธีการหล่อลื่นเกียร์บ็อก

1. การใช้จารบี (Grease Lubrication)   มักจะใช้กับเกียร์ที่มีความเร็วขอบ  0-6 เมตรต่อวินาที  ใช้ได้ทั้งเกียร์บ็อกแบบเปิด และเกียร์บ็อกแบบปิด แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นเกียร์ที่เดินช้า  การหล่อลื่นด้วยจารบีไม่เหมาะกับงานหนัก และงานที่ต่อเนื่อง เพราะจารบีไม่มีคุณสมบัติในการถ่ายเทความร้อน   นอกจากนี้ต้องระวังเรื่องปริมาณของจารบีให้ดี หากน้อยไปก็จะไม่เพียงพอต่อการหล่อลื่น แต่หากมากเกินไปก็ทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานได้

2. การวิดสาด (Splash Lubrication) บางครั้งเรียก (Oil bath)  มักจะใช้กับเกียร์ที่มีความเร็วขอบ  4-15 เมตรต่อวินาที  ใช้กันทั่วไปทั้งเฟืองฟันตรง ฟันเอียง เฟืองดอกจอก และเฟืองหนอน  โดยส่วนหนึ่งของเฟืองจะจุ่มอยู่ในอ่างน้ำมันเกียร์  ข้อควรระวังก็คือ ระดับน้ำมันเกียร์ต้องไม่สูงเกินไปจนทำให้เกิดการสูญเสียกำลัง ต้องตรวจสอบระดับน้ำมันทั้งในขณะที่เกียร์บ็อกทำงาน และหยุดทำงาน

3. การฉีดน้ำมัน (Spray Lubrication) ใช้กับเกียร์ที่มีความเร็วขอบ 10-20 เมตรต่อวินาที  การหล่อลื่นแบบนี้ต้องมีหัวฉีดน้ำมันที่มีความดันประมาณ 0.7 บาร์เกจ หากเกียร์มีความเร็วขอบมากกว่านี้ต้องออกแบบให้มั่นใจว่าน้ำมันที่ถูกฉีดสามารถเข้าถึงผิวเฟืองได้ เพราะเเรงเหวี่ยงหนีศูนย์และลมที่เกิดขึ้นจะต้านการไหลของน้ำมัน

น้ำมันเกียร์ ต้องทำหน้าที่อย่างน้อยสองอย่างคือ การหล่อลื่นผิวสัมผัสของฟันเฟือง ตลับลูกปืน  และการระบายความร้อนที่เกิดขึ้น   การล้าของผิวฟันเฟือง มักมีผลมาจากการที่ฟิล์มน้ำมันไม่ดีพอ หรือมีผงแข็ง เข้าไปอยู่ระหว่างผิวสัมผัส  ทำให้เกิดความเค้นบนผิวฟันเฟืองมาก และเกิดเป็นหลุมเล็ก ๆ ขึ้นมาได้  การที่โลหะสัมผัสกันโดยตรงเพราะฟิล์มน้ำมันไม่หนาพอ หรือมีผงแข็งถูกบดอัดบนผิวสัมผัสของฟันเฟือง จะทำให้เกิดความร้อนขึ้นมา  ยิ่งความร้อนสูงมาก  ผิวฟันเฟืองก็จะลดความแข็งแรงลง  ในขณะเดียวกันความหนืดหรือฟิล์มน้ำมันก็จะน้อยลง  ทำให้เกิดการสึกหรอมากขึ้น  เมื่อการสึกหรอมากขึ้นก็จะมีผงโลหะขนาดเล็กปะปนในน้ำมันหล่อลื่นมากขึ้น  ก่อให้เกิดวัฏจักรการสึกหรอต่อไปเรื่อย ๆ

การกรองน้ำมันเกียร์

การกรองน้ำมันเกียร์ และควบคุมสิ่งปนเปื้อนในเกียร์บ็อก

 การกรองน้ำมันเกียร์สามารถลดอนุภาค, ผงโลหะที่เกิดจากการสึกหรอ และความชื้นในน้ำมันได้  เมื่อน้ำมันสะอาดจะทำให้ ฟันเฟือง ตลับลูกปืน และซีล สึกหรอน้อยลง  เพื่อให้การกรองน้ำมันเกียร์ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เราควรคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้

• เมื่อต้องการกรองน้ำมันเกียร์ที่มีความหนืดสูง ท่านควรตั้งเป้าหมายระดับความสะอาดของน้ำมันในเกียร์บ็อกนั้นก่อน และควรมีตัวกรองอากาศช่องหายใจที่ดีพอ ไม่เช่นนั้นแล้วความพยายามของท่านจะสูญเปล่า

• หากท่านมีน้ำมันหล่อลื่นหลายประเภท ท่านต้องมั่นใจว่าได้กำหนดให้เครื่องกรองเครื่องไหนเป็นตัวกรองน้ำมันเกียร์  ทั้งนี้เพื่อป้องกันการปนเปื้อนระหว่างน้ำมันต่างชนิดกันที่ตกค้างอยู่ในเครื่องกรอง

 • เครื่องกรองเป็นอุปกรณ์สร้างแรงดันชนิดหนึ่ง ดังนั้นท่านต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย และเครื่องกรองน้ำมันต้องมีวาล์วปล่อยความดัน (Safety valve) เมื่อมีการอุดตันด้านขาออกของปั๊ม

• เครื่องกรองน้ำมันควรมีท่อ Bypass ที่ไม่ผ่านไส้กรอง

• การเลือกปั๊มและไส้กรองขึ้นอยู่กับปัจจัยสองอย่างคือ ความหนืดของน้ำมัน และอุณหภูมิของน้ำมันขณะกรอง น้ำมันที่มีความหนืดสูงเช่น  ISO VG220 จะต้องการปั๊มที่มีอัตราการไหลช้า  เพื่อไม่ให้ความดันก่อนเข้าไส้กรอง และออกจากไส้กรองต่างกันมากเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม และอุณหภูมิของน้ำมันขณะกรองด้วย

• เราสามารถใช้ข้อต่อสวมเร็วต่อเข้ากับเกียร์บ็อก และเครื่องกรองน้ำมันเพื่อให้สามารถกรองน้ำมันได้ในขณะที่เกียร์บ็อกทำงาน

• แน่นอนว่าการกรองด้วยอัตราการไหลน้อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความดันในการกรองสูงเกินไป จะทำให้ต้องใช้เวลาในการกรองนานขึ้น กฏทั่วไปก็คือ เราต้องกรองโดยให้น้ำมันไหลผ่านไส้กรองเป็นปริมาตร 7 เท่าของน้ำมันในเกียร์บ็อก  ตัวอย่างเช่น เกียร์บ็อกที่มีน้ำมัน 50 ลิตร และเครื่องกรองมีอัตราการไหล 10 ลิตรต่อนาที จะต้องใช้เวลา 5 นาทีต่อการกรอง 1 รอบ และต้องใช้เวลา 35 นาทีในการกรองน้ำมันทั้งหมดให้สะอาด

• เรื่องความละเอียดของไส้กรอง อาจจะใช้ขนาด 10 ไมครอน หากต้องการความสะอาดที่ ISO 17/15/12 แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับประสิทธิภาพของไส้กรองด้วย  หากต้องการความสะอาดมากกว่านั้นอาจเลือกไส้กรองขนาด 6 ไมครอน และเราสามารถต่อไส้กรองหลาย ๆ ตัวขนานกันเพื่อเพิ่มอัตราการไหลในการกรองได้

• จากแนวทางข้างต้น หากต้องการลดแรงดันน้ำมันขาเข้าและขาออกของไส้กรองลงครึ่งหนึ่ง ก็สามารถทำได้โดยการเพิ่มพื้นที่ในการกรอง หรือการต่อไส้กรอง 2 ตัวขนานกัน  ไส้กรองที่มีความละเอียด 3 ไมครอน ก็สามารถใช้ได้กับน้ำมัน ISO VG220 แต่ควรดูเรื่องอุณหภูมิและระดับความสะอาดที่ต้องการ นอกจากนี้ควรดูเรื่อง ต้นทุนของไส้กรองด้วย

• แรงดันไฟฟ้าที่ใช้ก็มีทั้งแบบเฟสเดียว หรือสามเฟส และจุดต่อไฟฟ้าที่จะหาได้ใกล้ ๆ กับ เครื่องกรอง และต้องมั่นใจว่าเครื่องกรองมีความปลอดภัยที่จะใช้ในบริเวณที่อาจเกิดการระเบิดได้

• สุดท้ายอาจต้องพิจารณาไส้กรองที่ดูดซับน้ำได้ด้วย หากเกียร์บ็อกมีปัญหาเรื่องการปนเปื้อนด้วยน้ำ นอกจากนี้ควรติดตั้งตัวดูดความชื้นที่ช่องหายใจด้วย

 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง : www.oilservethai.com/index.php

 

 

Share




สาระน่ารู้

ระบบไฮดรอลิค
ส่วนประกอบของน้ำมันหล่อลื่น
น้ำมันต้องสะอาดแค่ไหน ? article
ผลต่อเครื่องจักร article
การกรองแบบ In-line และ By-pass article
ทำไมต้องกรองละเอียด
น้ำมันสะอาดช่วยประหยัดเงิน
NAS 1638 และ ISO 4406
ตารางเปรียบเทียบ ISO และ NAS
การบำรุงรักษาน้ำมันไฮดรอลิค
6 ข้อผิดพลาดในการใช้งานระบบไฮดรอลิค
การควบคุมการปนเปื้อนใน Gearbox
เกียร์บ็อกร้อนเกินไป
การคำนวณเวลาในการกรอง
Filtroil กับอายุของน้ำมัน
การจัดการน้ำมันหล่อลื่น
การแยกน้ำออกจากน้ำมัน
Water Glycol
งานดึงลวด
การอบชุบโลหะด้วยความร้อน
น้ำมันชุบแข็ง
Coolant Oil Skimmer
น้ำมันถ่ายเทความร้อน
การบำรุงรักษาน้ำมันหล่อเย็น
การแยกตะกอนออกจากน้ำมันหล่อเย็น
เรื่องน่ารู้น้ำมันหล่อเย็น
งานฉีดพลาสติก
อันตรายจากหมอกละอองน้ำมัน (Oil mist)
ระบบหล่อลื่นเทอร์ไบน์
โคลนหรือตะกอนในน้ำมันคูลแลนท์
หลักการทำงานของเครื่องแยกละอองน้ำมันด้วยไฟฟ้าสถิต
การจัดการเศษโลหะจากงานขึ้นรูปโลหะ (chip management)
ผลของคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงต่อเครื่องยนต์
Dust and Mist Collector
น้ำมันเทอร์ไบน์ และการบำรุงรักษา
ประเภทของงานบำรุงรักษา
กรองแบบบายพาสสำหรับเครื่องยนต์
Beta Ratio
Mesh to Micron
Micro deburring and finishing