ผลของความสะอาดของน้ำมันหล่อลื่นต่ออายุของเครื่องจักร

ISO 4406 หรือ NAS 1638 เป็นรหัสที่บอกระดับการปนเปื้อนด้วยอนุภาคแข็ง (Solid Particle) ในน้ำมันหล่อลื่น ถ้าตัวเลข ISO หรือ NAS สูง แสดงว่าน้ำมันปนเปื้อนมาก หรือมีอนุภาคแข็งปนอยู่ในน้ำมันมาก  หากเป็นน้ำมันไฮดรอลิค อนุภาคเหล่านี้จะถูกปั๊มให้หมุนวนในระบบตลอดเวลาที่เครื่องจักรทำงาน  ยิ่งมีอนุภาคแข็งจำนวนมาก เครื่องจักรยิ่งสึกหรอเร็ว 

ยกตัวอย่างเช่น  ถ้าน้ำมันมีระดับการปนเปื้อนที่รหัส  ISO 21/18 และปั๊มไฮดรอลิกมีอัตราการไหล 250 ลิตรต่อชั่วโมง   ในระยะเวลา 1 ปี ปั๊มจะส่งอนุภาคแข็งไหลผ่านระบบไฮดรอลิก 4,375 กิโลกรัม  และอายุการใช้งานโดยประมาณของปั๊มไฮดรอลิกจะสั้นลงเหลือแค่  2 ปี 

ถ้าน้ำมันมีระดับการปนเปื้อนน้อยลง เป็น ISO 14/11 เมื่อปั๊มมีอัตราการไหลเท่าเดิม ในระยะเวลาหนึ่งปี จะมีอนุภาคแข็งไหลผ่านระบบเพียง 25 กิโลกรัม และทำให้อายุการใช้งานของปั๊มนานขึ้นเป็น  14 ปี นี่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นชัดเจนว่า หากน้ำมันสะอาดจะประหยัดเงินได้อย่างไร

ตารางข้างล่างนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่า หากระดับการปนเปื้อนด้วยอนุภาคแข็งในน้ำมันลดลง จะทำให้เครื่องจักรมีอายุนานขึ้นกี่เท่า

ใน 1 ช่อง จะมีตัวเลขสี่ตัว คือ

- ซ้ายบน เป็นอายุที่เพิ่มขึ้นของ ไฮดรอลิค และ เครื่องยนต์ดีเซล

- ซ้ายล่าง เป็นอายุที่เพิ่มขึ้นของ Journal Bearing และ Turbo Machinery

- ขวาบน เป็นอายุที่เพิ่มขึ้นของ  Rolling Element Bearing

- ขวาล่าง เป็นอายุที่เพิ่มขึ้นของ Gear Boxes และอื่น ๆ

 ตัวอย่างเช่น ในระบบไฮดรอลิก หากระดับการปนเปื้อนเดิมอยู่ที่ 15/12 แล้วเราทำให้ลดลงเป็น 12/9 อายุของเครื่องจักรจะยาวขึ้นสองเท่า หรือหากระดับการปนเปื้อนของน้ำมันไฮดรอลิกเดิมอยู่ที่ ISO 21/18  หากเราทำให้น้ำมันสะอาดขึ้นโดยมีระดับการปนเปื้อนลดลงเป็น ISO 15/12 จะทำให้เครื่องจักรมีอายุการใช้งานนานขึ้น 5 เท่า

 ระดับการปนเปื้อนในน้ำมันหล่อลื่นตามชั่วโมงการทำงาน

แผนภาพข้างล่างนี้ แสดงให้เห็นระดับการปนเปื้อนสะสมตามลักษณะของการบำรุงรักษาน้ำมัน

- เส้นสีแดง แสดงการใช้น้ำมันตามปกติ เมื่อชั่วโมงการทำงานของเครื่องจักรมากขึ้นระดับการปนเปื้อนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันใหม่

- เส้นสีเหลือง แสดงระดับการปนเปื้อนเมื่อมีการกรองน้ำมันเป็นระยะ

- เส้นสีน้ำเงิน แสดงระดับการปนเปื้อนเมื่อติดตั้งเครื่องกรองถาวรบนเครื่องจักร ซึ่งจะกรองตลอดเวลาที่เครื่องจักรทำงาน จึงทำให้น้ำมันสะอาดอยู่เสมอ

 จะเห็นได้ชัดว่า หากต้องการให้เครื่องจักรสึกหรอช้า ทำงานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องหยุดเพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน หรือบำรุงรักษาบ่อย ๆ  การเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิคตามระยะเวลาอาจจะไม่เพียงพอ  นอกจากนี้การเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิคตามระยะเวลาทำให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

1. ถ่ายน้ำมันที่ยังมีสภาพดี แล้วทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีน้ำมันปริมาณมาก และราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี  หากน้ำมันยังมีคุณสมบัติที่ดีแต่สกปรกจากการปนเปี้อนด้วยผง และ ความชี้น เราสามารถกำจัดได้โดยวิธีการกรอง
2. น้ำมันอาจจะเสื่อมสภาพไปก่อนที่จะถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว เนื่องจากสภาพการทำงานของเครื่องจักรเปลี่ยนไป เช่น มีอุณหภูมิสูง มีการปนเปิ้อนด้วยน้ำ และอนุภาคที่มากผิดปกติ ทำให้เครื่องจักรต้องทำงานภายใต้การหล่อลื่นที่ไม่สมบูรณ์ และนำไปสู่ความเสียหายในที่สุด

การเสื่อมสภาพของน้ำมันไฮดรอลิคมีเพียงสองสาเหตุคือ การสูญเสียคุณสมบัติของน้ำมันพิ้นฐาน และการที่สารเพิ่มคุณภาพถูกใช้หมดไป ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกว่าควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเมื่อไหร่คือ การส่งตัวอย่างน้ำมันไปวิเคราะห์ที่ห้องแล็บเพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติของน้ำมัน  ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย แต่จะทำให้ท่านประหยัดเงินในการซี้อน้ำมันใหม่ได้เป็นจำนวนมาก

Share